2023-11-22 By. Admin [View 1085]
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้รับรางวัล SET Awards 2023 ถึง 2 รางวัลในปีนี้ ซึ่งนับเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำเร็จของการยึดมั่นต่อแนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในทุกด้านอย่างต่อเนื่องยาวนาน สอดรับกับทิศทางการพัฒนาธุุรกิจภายใต้พันธกิจ “The Ultimate Solution for Sustainable Growth” โดยมีการวางแผนกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามกรอบของ ESG ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและบรรษัทภิบาล รวมถึงให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อองค์กร ทั้งในด้านความสามารถในการจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส มีศักยภาพในการแข่งขัน และการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว”
ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจพร้อมกับการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกันกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่า มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดำเนินธุรกิจ และมุ่งมั่นที่จะบูรณาการหลักการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact หรือ UNGC) เข้ากับกลยุทธ์และวัฒนธรรมขององค์กร รวมถึงมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายความยั่งยืนที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในทุกมิติ พร้อมส่งเสริมหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค การพัฒนาทรัพยากรมนุุษย์ การปรับเปลี่ยนการบริหารและการปฏิบัติงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กร อีกทั้งยังเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวก และลดการสร้างผลกระทบเชิงลบในด้านต่างๆ ทางด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจต้องพึ่งพิงน้ำจากแหล่งธรรมชาติให้น้อยที่สุด โดยได้มีการเพิ่มความสามารถในการนำน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัด และผลิตเป็นน้ำที่มีคุณภาพเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Wastewater Reclamation อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน การใช้นวัตกรรมและเทคโนลียีที่ช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมา จากการให้บริการทางด้านพลังงานหมุนเวียนที่ในปัจจุบันมีจำนวนเซ็นสัญญาโครงการ Private PPA สะสมจำนวน 179 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วประมาณ 106 เมกะวัตต์ โดยยังคงเดินหน้าขยายความสามารถทางด้านพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593
นอกจากนั้น ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปยังคงเดินหน้า สู่ภารกิจ “Mission To The Sun” เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับการพัฒนาองค์กร มุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 โดยมีโครงการที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ได้แก่ โครงการ Green Logistics ที่เป็นแนวความคิดการบริหารจัดการกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ในทุกมิติ โดยมุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการลดต้นทุนโลจิสติกส์ในระยะยาว พร้อมกันนี้ ยังคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน ดังสะท้อนจากการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสีเขียวและการใช้พลังงานสะอาดในการดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ รวมถึงยังเป็นช่วยการประหยัดพลังงานและลดการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย รวมถึงโครงการ Circular เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบนิเวศของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาความยั่งยืนของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้ถูกนำมาต่อยอดเป็นพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในปี 2566 ที่เน้นการเป็นผู้สร้างความเจริญ สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับผู้คนและสังคมเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สู่เป้าหมายสูงสุดคือสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้ริเริ่มโครงการเพื่อช่วยพัฒนาคนในทุกภาคส่วนของสังคมให้มีความก้าวหน้า อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยและคุณภาพชีวิตที่ดีให้สามารถเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยความสามารถในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ THSI (Thailand Sustainability Investment) ตั้งแต่ปี 2563-2565 และล่าสุดได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2566 ที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด และนับเป็นการติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน 4 ปีติดต่อกัน
TAGS :