2024-05-09 By. Admin [View 691]
นางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด(มหาชน) (บริษัทฯ หรือ NEO) ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การตลาดโดยนำเสนอนวัตกรรมผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ 50-100 รายการ ภายในปี 2567 ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (Mass) พรีเมียมแมส (Premium Mass)และพรีเมียม (Premium) เพื่อเพิ่มความนิยมของผลิตภัณฑ์และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ใกล้กับผู้นำตลาดหรือครองความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการสื่อสารทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายครบวงจรเพื่อสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคในวงกว้าง
ล่าสุด NEO ได้วางแผนรุกขยายสินค้าไปในกลุ่มสินค้าพรีเมียมแมส (Premium Mass) สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุดและคุณสมบัติที่ดีกว่า โดยแบรนด์ ดีนี่ (D-nee) ผู้นำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อย และเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ได้เปิดตัว2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ในชื่อ “ดีนี่ ดีลักซ์” (D-nee Deluxe)ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ ที่มีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ซักผ้าเพื่อทุกคนในครอบครัวที่มีมากกว่าความอ่อนโยนแต่ยังช่วยจัดการปัญหาเรื่องกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงอายุได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นแบรด์แรกในประเทศไทย และผลิตภัณฑ์โลชั่น ดีนี่ ดีลักซ์ เป็นสูตรที่ดีที่สุด ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง และมีกลิ่นหอมอ่อนโยน พร้อมเทคโนโลยีช่วยระงับกลิ่นผู้สูงวัยในสูตรที่อ่อนโยนขั้นสุดเพื่อดูแลผิวของผู้สูงวัยที่ผิวบอบบางไม่แพ้ทารก
บริษัทฯ มองหาโอกาสและมุ่งขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้ใหญ่โดยการเปิดตัว ดีนี่ ดีลักซ์ (D-nee Deluxe) เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เจาะกลุ่มผู้สูงอายุ (Sliver Age) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบกับประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 29 ในปี 2580 หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทยในอีก 7 ปีข้างหน้า จากการเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% และคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้สูงอายุจะกลายมาเป็นกลุ่มที่่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ (ข้อมูลจากศูนย์วิจัย KrungthaiCOMPASS)
“ดีนี่ (D-nee) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์มีภาพลักษณ์ของความอ่อนโยน ปลอดภัย และเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็กที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 72% (ข้อมูลจาก Nielsen: Jan-Dec 2023) NEO จึงได้ต่อยอดด้วยการแตกไลน์สินค้าเพื่อดูแลผ้าสำหรับผู้สูงอายุที่ผิวบอบบางไม่แพ้ผิวทารก ผลิตภัณฑ์ดีนี่ ดีลักซ์ (D-nee Deluxe) ที่มาพร้อมนวัตกรรมการกำจัดกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงอายุ ด้วยเทคโนโลยีจากสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น (Persimmon Extract) ในผลิตภัณฑ์ซักผ้า และเทคโนโลยี Deo Effective ในโลชั่นที่จะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ พร้อมทั้งช่วยปกป้อง และให้ความหอมสดชื่นยาวนานตลอดวัน ซึ่ง ดีนี่ ดีลักซ์ (D-nee Deluxe) จะมาช่วยเสริมพอร์ตสร้างการเติบโตของแบรนด์ให้ก้าวกระโดดไปเป็นแบรนด์ที่สามารถใช้ได้ทุกคนในครอบครัว” นางสาวณิชมน กล่าว
อนึ่ง บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสินค้าอุปโภคชั้นนำของคนไทยที่ให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมากตลอดระยะเวลากว่า 34 ปีที่ผ่านมา ในปีนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เตรียมขยายไปสู่กลุ่มใหม่ๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมในอนาคต ผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก รวม 8 แบรนด์ ประกอบด้วย ไฟน์ไลน์(Fineline), ดีนี่ (D-nee), บีไนซ์ (BeNice), ทรอส (TROS), เอเวอร์เซ้นส์ (Eversense), วีไวต์ (Vivte), สมาร์ท (Smart)และโทมิ (Tomi) เพื่อตอกย้ำถึงเป้าหมาย NEO มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ช่วยดูแลชีวิตประจำวันของทุกคนให้ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อช่วยยกระดับความสุขของผู้บริโภคให้ทุกวันดียิ่งขึ้น (Uplift The Essentials for Everyday Betterment) และเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
TAGS :