2024-11-04 By. Admin [View 111]
นายเกริกไกรวัล แสงประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ คอส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MER เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้สร้างสรรค์ พัฒนา และสรรหาสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามครบวงจร โดยมุ่งเน้นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ MERREZCA (เมอร์เรซกา) ของบริษัทฯ โดยการร่วมพัฒนา ว่าจ้างผลิตและนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “Find Your Makeup Find Your Style” ที่เชื่อว่าคนทุกคนล้วนมีความสวยงามและดูดีได้ในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งสะท้อนผ่านผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนการผลิตและมุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนผ่านนวัตกรรมความงามที่ทันสมัย และช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยความมั่นใจและภูมิใจในความสวยงามตามแบบฉบับของตนเอง
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ MERREZCA แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1.) ผลิตภัณฑ์ใบหน้า (Face) เช่น เมคอัพเบส (Makeup Base) ครีมรองพื้น (Skin Foundation) ครีมกันแดด (UV Essence) คอนซีลเลอร์ (Concealer) และแป้งทาหน้า (Face Up Powder) เป็นต้น 2.) ผลิตภัณฑ์ริมฝีปาก (Lip) เช่น ลิปสติก ลิปทินท์ (Lip Tint) และลิปบาล์ม (Lip Balm) เป็นต้น 3.) ผลิตภัณฑ์ดวงตา (Eyes) เช่น อายแชโดว์ (Eyeshadow) มาสคาร่า (Mascara) อายไลน์เนอร์ (Eyeliner) และดินสอเขียนคิ้ว (Brow Pencil) เป็นต้น 4.) ผลิตภัณฑ์แก้ม (Cheek) เช่น บลัชออน ไฮไลท์ เป็นต้น และ 5.) ผลิตภัณฑ์ Premium Accessories เพื่อการส่งเสริมการขาย เช่น ชุดแปรงแต่งหน้า กระจกแต่งหน้า กระเป๋าเครื่องสำอางขนาดพกพา กระเป๋าถือสำหรับใส่เครื่องสำอาง กระเป๋าผ้าสะพายข้าง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำหอม โลชั่นบำรุงผิว (Body Lotion) เป็นต้น โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ ได้แก่ การค้าปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) การค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) รวมถึงร้านสาขาของบริษัทฯ (Shop Retail) ภายใต้ชื่อร้าน MERREZ’CA อยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าต่างๆ เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ เป็นต้น และช่องทางขายออนไลน์ e-Commerce ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำตลาดในประเทศไทย ส่งผลให้แบรนด์ MERREZCA ติดอันดับ 1 ใน 4 (Top 4) ของแบรนด์เครื่องสำอางในใจผู้บริโภค จากการวิจัยของสำนักงานวิจัย Kantar Worldpanel - Beauty Panel ในเดือนธันวาคม 2566 อีกทั้งผลิตภัณฑ์ MERREZCA ยังได้รับรางวัลจากการจัดอันดับของสถาบันเครื่องสำอางและนิตยสารต่าง ๆ มากมาย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MER กล่าวเพิ่มเติมว่า แบรนด์ “MERREZCA” มาจากแรงบันดาลใจจากคำว่า “เมล็ดกล้า” หมายถึงการเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่มีความจำเป็นต่อการเติบโตของต้นไม้ใหญ่ บริษัทฯ จึงพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทด้านความงามที่เป็นเลิศ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ดีที่สุด ในความเป็นตัวของตนเอง” โดยวางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทด้านความงามที่เป็นเลิศในอุตสาหกรรมด้านความสวยความงามที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพในราคาเหมาะสมสู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างสังคมความงามที่มีคุณค่าและพัฒนาบุคลากรเพิ่มขีดความรู้ความสามารถให้มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์พร้อมส่งต่อบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น พนักงาน และร่วมพัฒนาสังคมให้มีความยั่งยืนในระยะยาว
“จุดเริ่มต้นของ MER มาจากการร่วมทุนระหว่างผู้ก่อตั้ง 2 ราย คือผม (เกริกไกรวัล แสงประดิษฐ์) และคุณชานนท์ นุชถนอม โดยได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ จากกระแสความโด่งดังของเครื่องสำอางเกาหลีที่เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่ติดปัญหาในเรื่องของเฉดสีและเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับสีผิวของคนไทยและสภาพอากาศของประเทศไทย ทำให้เกิดความไม่สบายผิวและปัญหาจากเนื้อผลิตภัณฑ์ ถือเป็น Pain Points ที่สำคัญของผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์ในวงการเครื่องสำอางที่ยาวนาน ทำให้เกิดการคิดค้น พัฒนา และส่งมอบเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์และเหมาะกับสภาพและสีผิวของคนไทยอย่างแท้จริง และยังคงรักษาคุณภาพระดับสากล ก่อเกิดเป็นแบรนด์ MERREZCA ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน” นายเกริกไกรวัล กล่าว
นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ. แกรนด์ คอส กรุ๊ป หรือ MER ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ปัจจุบัน MER มีทุนจดทะเบียน 117 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 234 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 84 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 168 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 66 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.21 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และชำระคืนเงินกู้ยืม รวมถึงใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต เช่น การเข้าซื้อกิจการ เป็นต้น
TAGS :